สี่สังเวชนียสถาน 7 - 16 ธันวาคม
Tags: ทัวร์สี่สังเวชนียสถาน ทัวร์แสวงบุญ, ทัวร์สังเวชนียสถาน, จาริกแสวงบุญอินเดียเนปาล, ทัวร์แสวงบุญอินเดีย
ทัวร์สี่สังเวชนียสถาน อินเดีย-เนปาล
7 - 16 ธันวาคม 2568
10 วัน 9 คืน
ท่านละ 43,000 บาท
*** ราคานี้รวมตั๋วเครื่องบินไปกลับโดยสายการบินไทย
เดินทางขั้นต่ำ 10 ท่าน
มีพระวิทยากรบรรยาย นำสวดมนต์ ปฏิบัติภาวนา ตลอดการเดินทาง
สถานที่พัก
พักวัด : นอนห้องละ 2 - 4 ท่าน มีห้องน้ำในตัว เตียงนอนเดี่ยว อาหารไทย
- ในปัจจุบันนั้นทางวัดได้จัดที่พักให้กับผู้มาจาริกแสวงบุญมาพักอาศัย โดยมีจิตอาสามาช่วยทำความสะอาด ทำอาหารไทยให้กับทุกท่านรับประทาน ที่พักสะอาด สะดวกสบาย
- พักโรงแรม : นอนห้องละ 2- 3 ท่าน
- โรงแรมที่ทางทัวร์ได้เลือกสรรให้นั้น เป็นโรงแรมที่ส่วนใหญ่คนไทยไปพักบ่อย เจ้าหน้าที่จะคุ้นเคยกับการบริการคนไทย อาหารรสชาติกลางๆๆ
วันแรก : สนามบินสุวรรณภูมิ - คยา ประเทศอินเดีย
07.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ สายการบินไทย (THAI AIRWAYS) โดยมีทีมงานคอยอำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
11.40 น. บินลัดฟ้าสู่ เมืองคยา ประเทศอินเดีย โดยสายการบินไทย (THAI AIRWAYS) เที่ยวบินที่ TG327 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.55 ชั่วโมง) มีอาหารอุ่นร้อนบริการบนเครื่องบิน
12.10 น. เดินทางถึงสนามบินคยา (Gaya Airport) เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย (เวลาท้องถิ่นที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร คณะออกเดินทางเข้าสู่เมืองพุทธคยา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
จากนั้น นำทุกท่านเข้าพักและเก็บสัมภาระ ณ วัดไทย
เริ่มต้นการจาริกแสวงบุญพุทธสังเวชนียสถาน ๑ เมืองพุทธคยา (สถานที่ตรัสรู้)
นำท่านชม พระมหาเจดีย์พุทธคยา สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช อนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าภายในประดิษฐาน พระพุทธเมตตา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยอายุกว่า 1,400 ปี ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายหลาย
จากนั้น นำนมัสการ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นจุดที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งบำเพ็ญเพียรจนตรัสรู้ ทำสมาธิปฏิบัติบูชาตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารที่เข้าพัก
วันที่สอง : พุทธคยา - ราชคฤห์ - นาลันทา - ปัตนะ
เช้า ออกเดินทางสู่เมืองราชคฤห์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที )
นำทุกท่านเดินขึ้น เขาคิชกูฎ สถานที่ที่เป็นรมณียสถานสำราญพระราชอัธยาศรัยของพระพุทธเจ้า (ระยะทางขึ้นเขาคิชกูฎประมาณ 1 กิโลเมตร ทางเดินขึ้นเขาลาดชัน แต่ปูลาดเดินง่าย เดินสะดวก แนะนำ ผู้ใหญ่ที่ขาเจ็บ หัวเข่าเจ็บ ขาไม่ดี เดินไม่ค่อยไหว ที่นี่มีเสลียงไว้ให้บริการ ถ้าต้องการใช้บริการ กรุณาแจ้งทีมงานล่วงหน้า) กราบสักการบูชา ถ้ำพระมหาโมคคัลลานะ สถานที่ที่อัครสาวกเบื้องซ้ายด้านผู้มีฤทธิ์มากได้สำเร็จพระอรหันต์ สักการะ ถ้ำสุกรขาตา หรือ ถ้ำพระสารีบุตร สถานที่ที่อัครสาวกเบื้องขวาด้านผู้มีปัญญาเป็นเลิศ สำเร็จพระอรหันต์ จากนั้น ขึ้นสักการะบูชาที่ พระคันธกุฎี กุฏิพระพุทธเจ้า และกุฏิพระอานนท์ พุทธอุปัฏฐาก
จากนั้น นำทุกท่านเข้าชม วัดพระเวฬุวัน วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาสร้างถวายโดยพระเจ้าพิมพิสาร เป็นสถานที่เกิดวันมาฆบูชา และทรงจำพรรษาที่วัดแห่งนี้
11.30 น. ถวายภัตตาหารเพลและรับประทานอาหารกลางวัน ณ วัดไทยระหว่างทาง และร่วมทำบุญถวายผ้าป่าก่อนออกเดินทางต่อสู่เมืองนาลันทา
บ่าย นำทุกท่านเข้ากราบสักการะและถวายผ้าห่ม หลวงพ่อพระพุทธรูปองค์ดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุนับพันปี ชาวท้องถิ่นเชื่อว่าหลวงพ่อสามารถดลบันดาลให้หายเจ็บหายป่วย คณะแสวงบุญที่เลื่อมใสศรัทธา ขออพรเพื่อความเป็นสิริมงคล
หลังจากนั้น นำท่านเข้าเยี่ยมชม มหาวิทยาลัยนาลันทา(เก่า)ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของพระพุทธศาสนา เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่เคยรุ่งเรืองที่สุดในโลก ปัจจุบันเหลือซากปรักหักพังที่สะท้อนให้เห็นถึงยิ่งใหญ่ในอดีต กราบสักการะบูชาสถูปบ้านและสถานที่นิพพานของพระสารีบุตรอัครสาวกเบื้องขวา
18.30 น. ถวายน้ำปานะและรับประทานอาหารเย็น ณ ฺPatna Hotel / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สาม : ปัตนะ - ไวสาลี - กุสินารา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
นำท่านเข้าสักการบูชา ภูฏาคารศาลาป่ามหาวัน เป็นสถานที่พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้พระนางมหาปชาบดีโคตมีเถรี พระน้านางของพระพุทธองค์ พร้อมกับบริวาร สามารถอุปสมบทเป็นภิกษุณีได้เป็นครั้งแรกในโลกและชม เสาอโศก ที่สมบูรณ์ที่สุดและงดงามที่สุดของอินเดีย
หลังจากนั้น นำทุกท่านเข้าสักการะ ปาวาลเจดีย์ สารีริกธาตุพระสถูปเจดีย์ สถานที่ปลงพระชนมายุสังขาร
11.30 น. ถวายภัตตาหารเพลและรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารวัดไทยระหว่างทาง / ร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าตามกำลังศรัทธา
บ่าย นำทุกท่านเยี่ยมชม มหาสถูปเกสรียา เป็นสถานที่ตั้งของมหาสถูปพบใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย สถานที่ประดิษฐานบาตรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงประทานแก่ชาววัชชี
หลังจากนั้น นำทุกท่านเดินทางสู่เมืองกุสินารา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง ตามสภาพการจราจร)
ค่ำ ถวายน้ำปานะและรับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สี่ : กุสินารา – ลุมพินี(ประเทศเนปาล)
** โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวเพื่อประทับตราออกจากประเทศอินเดีย เข้าสู่ประเทศเนปาล**
*** สถานที่ปรินิพพาน พุทธสังเวชนียสถานที่ 2
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
นำท่านเข้าสักการะปรินิพพานสถูป สถานที่ดับขันธ์ปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน และเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า ร่วมกันสวดมนต์บูชา และถวายผ้าห่มองค์พระพุทธรูปปรินิพพาน
หลังจากนั้น นำท่านเข้าสักการะมกุฎพันธนเจดีย์ ชาวท้องถิ่นเรียกว่า รัมภาร์สถูป เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ
12.00 น. ถวายภัตตาหารเพลและรับประทานอาหารกลางวันและทาน “โรตีอรีดอย” ณ วัดไทยนวราชรัตนาราม 960 ก่อนจะเดิน ทางข้ามด่านและผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง เดินทางต่อสู่ลุมพินีวัน ประเทศเนปาล
หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่ด่านโสเนาลี (SONUALI) ชายแดนประเทศอินเดีย – เนปาล (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง ตามสภาพการจราจร)
นำทุกท่านสู่ สวนศักด์สิทธิ์ ลุมพินีวัน เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่าง กรุงกบิลพัสดุ์ และ กรุงเทวทหะ ภายในสวนลุมพินีแห่งนี้มี "วิหารมายาเทวี"ภายในประดิษฐานภาพหินแกะสลักพระรูปพระนางสิริมหามายาประสูติพระราชโอรส และชมสระโบกขรณี กราบสักการะเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่ห้า ลุมพินีทั้งวัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร
นำทุกท่านสู่ สวนศักด์สิทธิ์ ลุมพินีวัน เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่าง กรุงกบิลพัสดุ์ และ กรุงเทวทหะ ภายในสวนลุมพินีแห่งนี้มี "วิหารมายาเทวี" ภายในประดิษฐานภาพหินแกะสลักพระรูปพระนางสิริมหามายาประสูติพระราชโอรส และชมสระโบกขรณี กราบสักการะเสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช
หลังจากนั้น เดินทางสู่เมืองเทวทหะ(ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที โดยประมาณ)
11.30 น. ถวายภัตตาหารเพลและรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารวัดไทย
บ่าย นำทุกท่านสักการะ รามคามสถูป เป็นสถูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แห่งนครเทวทหะ เป็นสถูปที่พระญาติฝ่ายพระมารดาสร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับส่วนแบ่งมาหลังพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพที่เมืองกุสินารา นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังกบิลพัสดุ์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) กรุงกบิลพัสดุ์ เป็นเมืองของพระเจ้าสุทโธทนะผู้เป็นพระบิดาของเจ้าชายสิทธัตถะซึ่งต่อมาได้ตรัสรู้เป็นพระโคตมพุทธเจ้า ปัจจุบันกรุงกบิลพัสดุ์ มีแต่ซากปรักหักพัง สถานที่สำคัญในบริเวณนี้คือซากพระราชวังซึ่งพระเจ้าสุทโธทนะแห่งศากยวงศ์สร้างไว้สำ หรับเจ้าชายสิทธัตถะกับพระนางยโสธราหรือพระนางพิมพาพระมเหสีโดยได้ประทับอยู่เป็นเวลา 29 ปีก่อนที่จะตัดสินพระทัยออกผนวช สถานที่แห่งนี้ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว จากนั้น นำท่านชม วัดนิโครธาราม เป็นอารามที่พระเจ้าสุทโธทนพร้อมพระประยูรญาติสร้างถวายต้อนรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคราวนิวัตรพระนครสร้างเพื่อให้พระองค์พร้อมด้วยพระอรหัตสาวกประทับ
18.00 น. รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของวัดไทย / ร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่า / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่หก : ลุมพินี – สาวัตถี(ประเทศอินเดีย)
เช้า นำทุกท่านเดินทางกลับเข้าด่านอินเดียผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองของเนปาล – อินเดีย
จากนั้น นำท่านรับประทานอาหารเช้าที่วัดไทยนวราชรัตนาราม 960 ชายแดนอินเดีย – เนปาล / ร่วมกันทำบุญถวายผ้าป่า จากนั้น นำทุกท่านเดินทางสู่เมืองสาวัตถี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-8 ชั่วโมง)
11.00 น. รับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง
14.00 น. ถึงเมืองสาวัตถี ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล ซึ่งในครั้งที่พระพุทธเจ้าได้เดินทางเสด็จมาประทับ จำพรรษาที่เมืองแห่งนี้รวมทั้งหมด 25 พรรษา เป็นที่ตรัสพระสูตรมากมาย ปัจจุบันยังมีซากโบราณสถานที่สำคัญปรากฏร่องรอยอยู่ คือ ที่แสดงยมกปาฏิหาริย์และเป็นเมืองที่พระพุทธศาสนามั่นคงที่สุดสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ครั้งนี้ คือที่โคนต้นมะม่วง หรือ คัณฑามพพฤกษ์ในเมืองสาวัตถี นำท่านชมคฤหาสน์ของ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีและ บ้านบิดาของท่านองคุลิมาล นำท่านชม วัดเชตวันมหาวิหาร ซึ่งเป็นอารามที่สร้างโดยท่านอนาถบิณทิกเศรษฐี มหาเศรษฐีแห่งเมืองสาวัตถี และที่วัดแห่งนี้พระพุทธองค์ประทับจำพรรษานานถึง 19 พรรษา นมัสการพระคันธกุฎี, หมู่กุฎิของพระอรหันต์สวดมนต์ ปฏิบัติบูชา กราบสักการะอานันทโพธิ์ต้นโพธิ์ที่ปลูกโดยพระอานนท์ในสมัยพุทธกาล
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม/ พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่เจ็ด : สาวัตถี – พาราณสี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
ออกเดินทางสู่เมืองพาราณสี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 – 12 ชั่วโมง)
11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลและรับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง
เย็น ถึงเมืองพาราณสี มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดียและยังจัดเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกด้วย พาราณสียังเป็นเมืองที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาในหลายด้าน โดยมีอาณาเขตครอบคลุมถึง ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่พระปัญจวัคคีย์ ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า สารนาถ.
จากนั้น นำท่านล่องเรือชมแม่น้ำคงคา ชมความสวยงามของเมืองพาราณสี และ ชมพิธีคงคาอารตีบูชา หรือเรียกอีกอย่างว่า พิธีบูชาไฟ และ แวะชม เจาคันธีสถูป สถานที่พระพุทธองค์ทรงพบปัญจวัคคีย์
ค่ำ นำท่านเข้าที่พักโรงแรมและ ร่วมกันรับประทานอาหาร / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่แปด พาราณสี - คยา
*** สถานที่แสดงปฐมเทศนา พุทธสังเวชนียสถานที่ 4
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของวัดที่เข้าพัก
นำทุกท่านเข้าสักการะ ธัมเมกขสถูป สถานที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา "ธัมมจักกัปปวัตนสูตร" โปรด ปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 กราบสักการะบูชาและเวียนประทักษิณ รอบองค์พระธัมเมกขสถูป สักการะ พระมูลคันธกุฏี เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับจำพรรษาแรกและพรรษาที่ 12 ใกล้กับพระมูลคันธกุฏี มี เสาอโศก หรือ เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราช แม้จะหักออกเป็น ๕ ท่อน ก็ยังถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีถือเป็นโบราณวัตถุที่สำคัญที่สุดของอินเดีย ชม ยะสะสถูป และ ซากฐานเจดีย์ธรรมราชิกสถูป สถานที่พระพุทธองค์ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตรโปรดปัญจวัคคีย์ ทำให้ปัญจวัคคีย์บรรลุเป็นพระอรหันต์
11.00 น. ร่วมถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน
บ่าย เมื่อได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านออกเดินทางสู่เมืองพุทธคยา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-8 ชั่วโมง ตามสภาพการจราจร )
18.30 น. รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของวัดที่เข้าพัก
วันที่เก้า : พุทธคยาทั้งวัน