ทัวร์สังเวชนียสถาน 12 - 23 พฤศจิกายน 2567
เลิศบุญทัวร์
ทัวร์สี่สังเวชนียสถานและถ้ำมรดกโลก
ณ ประเทศอินเดีย - เนปาล
เดินทางวันที่ 12 - 23 พฤศจิกายน 2567
12 วัน 11 คืน
ท่านละ 70,000 บาท
การเดินทาง
1. เดินทางขาไป โดยสายการบินอินดิโก้ (เดินทางไปถ้ำมรดกโลก)
เที่ยวบินที่ 6E1068 BANGKOK - HYDERABAD ออกเดินทางเวลา 10.25 น. ถึงสนามบินไฮเดอราบาด 12.25 น.
ต่อเครื่อง 3 ชั่วโมง เพื่อไปยังเมืองออรังคบาด
เที่ยวบินที่ 6E7159 HYDERABAD - AURANGABAD ออกเดินทางเวลา 15.50 น. ถึงสนามบินออรังคบาด 17.20 น.
2. เดินทางแสวงบุญสี่สังเวชนียสถาน
เที่ยวบินที่โดยสายการบินอินดิโก้ AURANGABAD - HYDERABAD ออกเดินทางเวลา 08.40 น. ถึงสนามบินไฮเดอราบาด 10.10 น.
รอต่อเครื่อง 4 ชั่วโมง
เที่ยวบินที่ 6E223 HYDERABAD - PATANA ออกเดินทางเวลา 16.00 น. ถึงสนามบินปัตนะ 17.55 น.
3. เดินทางขากลับ โดยสายการบินไทย
เที่ยวบินที่ TG328 ออกเดินทางจากสนามบินคยา 15.10 น. ถึงสนามบินดอนเมืองเวลา 19.45 น.
4. การเดินทางภายในประเทศอินเดีย โดยรถปรับอากาศชั้น 1 ไม่มีการเปลี่ยนรถ ใช้รถคันเดิมตลอดการเดินทาง ไม่นั่งเบียด
สถานที่พัก
-
เมืองออรังคบาด 3 คืน - พักที่ FERN RESIDENCY / เทียบเท่า
-
เมืองปัตนะ 1 คืน - HOTEL PANACHE / เทียบเท่า
-
เมืองกุสินารา 1 คืน - HOTEL ROYAL RESIDENCY / เทียบเท่า
-
เมืองลุมพินี 1 คืน - พักวัดไทยลุมพินี / เทียบเท่า
-
เมืองสาวัตถี 1 คืน - HOTEL PLATINUM / เทียบเท่า
-
เมืองพาราณสี 1 คืน - HOTEL FERN RESIDENCY / เทียบเท่า
-
เมืองพุทธคยา 3 คืน - พักวัดภูริปาโล
โปรแกรมการเดินทาง
วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินไฮเดอราบาด (ประเทศอินเดีย) - สนามบินออรังคบาด
วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน 2567
06.00 น. คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ อาคารผู้โดยสารขาออก สายการบินอินดิโก้ (INDIGO AIRLINES) โดยมีทีมงานคอยอำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน
10.25 น. บินลัดฟ้าสู่ เมืองไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย โดยสารการบินอินดิโก้ (INDIGO AIRLINE) เที่ยวบินที่ 6E1068 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.55 ชั่วโมง) โหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง 20 กิโลกรัม
12.25 น. เดินทางถึงสนามบินไฮเดอราบาด ( Hyderabad Airport) เมืองไฮเดอราบาด ประเทศอินเดีย (เวลาท้องถิ่นที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร รอต่อเครื่อง 3 ชั่วโมง เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองออรังคบาด
15.50 น. เดินทางต่อไปยังเมืองออรังคบาด โดยสายการบินอินดิโก้ เที่ยวบินที่ 6E7159
17.20 น. เดินทางถึงเมืองออรังคบาด จากนั้นนำทุกท่านเข้าพัก โรงแรมระดับ 4 ดาว และรับประทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่สอง เยี่ยมชมถ้ำอชันต้า
วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2567
06.30 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
07.30 น, นำทุกท่านออกเดินทางไปยังถ้ำอชันต้า ถ้ำมรดกโลก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 - 3 ชั่วโมงโดยประมาณ ตามสภาพจราจร
11.00 น. รับประทานอาหารกลาง ณ ร้านอาหารบริเวณถ้ำ
บ่าย นำทุกท่านขึ้นเยี่ยมชมถ้ำอชันต้าซึ่งเป็นถ้ำที่สร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ทั้งหมด และสร้างขึ้นโดยชาวพุทธทั้งหมด โดยถ้ำแห่งนี้แบ่งเป็นถ้ำพุทธเถรวาทและถ้ำพุทธมหายานเป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำพาทุกท่านกลับโรงแรมที่พัก
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
ถ้ำอชันตา
ถ้ำอชันตา ปฏิมากรรมทางพุทธศาสนา ที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก
ถ้ำเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของพระสงฆ์ เป็นวัด เป็นวิหาร โดยใช้วิธีเจาะภูเขาทั้งลูกเข้าไป บางถ้ำมีถึง ๓ ชั้น มีทางเดินเชื่อมถึงกันตลอด ถ้ำที่ก่อสร้างในยุคแรกๆ เป็น วัดถ้ำของพุทธฝ่ายเถรวาท พระสงฆ์ในยุคนั้นได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยอย่างเรียบง่าย โดยเจาะหินเข้าไปเป็นห้องโถง เปิดโล่ง ใช้เป็นที่นั่งสนทนาธรรม ส่วนผนังทั้งสามด้านก็สกัดหิน เจาะเข้าไปเป็นห้องนอน ภายในมีเตียงหิน ห้องละ ๒ หลัง
วันที่สาม เยี่ยมชมหมู่ถ้ำเอลโลร่า
วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567
06.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
08.30 น. นำทุกท่านเข้าเยี่ยมชมกราบสักการะ หมู่ถ้ำเอลโลร่า(Ellora cave) ซึ่งเป็นทั้งถ้ำและวัดของ 3 ศาสนา คือศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดู และศาสนาเชน ก่อสร้างในช่วง พ.ศ.1,100 – 1,600 เป็นความอลังการที่เกิดขึ้นจากความศรัทธาที่มีต่อศาสนาของตนทั้งที่อุปกรณ์ที่มีไม่ทันสมัยในยุคสมัยนั้น แต่ก็สามารถสร้างความน่าอัศจรรย์มากที่ทำด้วยมือขึ้นมาได้ทั้ง 32 ถ้ำ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำทุกท่านเยี่ยมชม หมู่ถ้ำของศาสนาเชน
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
ถ้ำแอลโล่า
ปัจจุบันค้นพบถ้ำมากกว่า 100 ถ้ำในหมู่ถ้ำเอโลรา ทั้งหมดสร้างขึ้นโดยการเจาะเข้าไปในหน้าผาหินบะซอลต์ในหมู่เทือกเขาจารนันทรี (Charanandri Hills) ปัจจุบันมีเพียง 34 ถ้ำที่เปิดให้เข้าชมสำหรับสาธารณชน ในจำนวนนี้ประกอบด้วยวิหารในศาสนาพุทธ 12 แห่ง (ถ้ำหมายเลข 1–12), ฮินดู 17 แห่ง (ถ้ำหมายเลข 13–29) และไชนะ 5 แห่ง (ถ้ำหมายเลข 30–34) ภายในแต่ละวิหารเจาะหินเป็นการแสดงถึงศิลปกรรมและความเชื่อที่แพร่หลายในสหัสวรรษที่หนึ่ง และสร้างตามความเชื่อของแต่ละศาสนา
วันที่สี่ ออรังคบาด - สนามบินไฮเดอราบาด - เมืองปัตนะ
วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567
เช้า ออกเดินทางสู่สนามบินออรังคบาด
08.40 น. ออกเดินทางจากสนามบินออรังคบาด โดยสายการบินอินดิโก้ เที่ยวบินที่ 6E7259 (น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่อง 20 กิโลกรัม )
10.10 น. เดินทางถึงสนามบินไฮเดอราบาด
16.00 น. เดินทางสู่เมืองปัตนะ ด้วยสายการบินอินดิโก้ เที่ยวบินที่ 6E223
17.55 น. ถึงเมืองปัตนะ
จากนั้น นำทุกท่านเข้าเก็บสัมภาระ และรับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหาร Panache Hotel
วันที่ห้า ปัตนะ - ไวสาลี - กุสินารา
วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
จากนั้น นำทุกท่านเดินทางสู่เมืองไวสาลี ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที
นำท่านเข้าสักการะบูชาที่ ปาวาลเจดีย์ เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สถานที่ปลง พระชนมายุสังขาร และ นำท่านเข้าสักการบูชา ภูฏาคารศาลาป่ามหาวัน เป็นสถานที่เกิดน้ำพระพุทธมนต์เป็นครั้งแรก เป็นสถานที่พระพุทธองค์อนุญาตให้ผู้หญิงบวชเป็นภิกษุณีสงฆ์ในพระพุทธศานาเป็นครั้งแรกและชม เสาอโศก ที่สมบูรณ์ที่สุดและงดงามที่สุดของอินเดีย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ วัดไทยไวสาลี
หลังจากนั้น นำทุกท่านเดินทางสู่เมืองกุสินารา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
บ่าย ท่านเข้าสักการะ มกุฎพันธนเจดีย์ ชาวท้องถิ่นเรียกว่า รัมภาร์สถูป เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก /พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่หก กุสินารา - ลุมพินี (ประเทศเนปาลฉ
วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567
** โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวเพื่อประทับตราออกจากประเทศอินเดีย เข้าสู่ประเทศเนปาล**
06.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
เช้า นำท่านเข้าสักการะ ปรินิพพานสถูป สถานที่ดับขันธ์ปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน หรือป่าไม้สาละที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ร่วมกันสวดมนต์บูชา และถวายผ้าห่มองค์พระพุทธรูปปรินิพพาน
หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่ด่านโสเนาลี (SONUALI) ชายแดนประเทศอินเดีย – เนปาล (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง ตามสภาพการจราจร)
11.30 น. รับประทานอาหารกลางวันและทาน “โรตีอรีดอย” ณ วัดไทยนวราชรัตนาราม 960 ก่อนจะเดินทางข้ามด่านและผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง เดินทางต่อสู่ลุมพินีวัน ประเทศเนปาล / ร่วมกันทำบุญผ้าป่าตามกำลังศรัทธา
บ่าย นำทุกท่านสู่ สวนศักด์สิทธิ์ ลุมพินีวัน เป็นสถานที่ประสูติของพระโพธิสัตว์เจ้าชายสิทธัตถะตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างระหว่าง กรุงกบิลพัสดุ์ และ กรุงเทวทหะ ภายในสวนลุมพินีแห่งนี้มี "วิหารมายาเทวี" ภายในประดิษฐานภาพหินแกะสลักพระรูปพระนางสิริมหามายาประสูติพระราชโอรส และชมสระโบกขรณี กราบสักการะเสาหินอโศกมหาราช
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของวัดไทยลุมพินีที่เข้าพัก/ พักผ่อนตามอัธยาศัย
ปรินิพพานสถูป(สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน)
เป็นวัดในพระพุทธศาสนาที่ตั้งอยู่ในเมืองกุสินารา เป็นสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพานของ พระโคตมพุทธเจ้า ศาสดาของศาสนาพุทธ ภายในวัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ปางปรินิพพาน ซึ่งหันพระเศียรไปทางทิศเหนือ โดยพระพุทธรูปองค์นี้มีความยาวทั้งสิ้น 6.1 เมตรและแกะสลักจากหินทั้งก้อน
ลุมพินีวัน(สถานที่ประสูติ)
ลุมพินีวัน เป็นพุทธสังเวชนียสถานที่สำคัญแห่งที่ 1 ใน 4 สังเวชนียสถานของชาวพุทธ เป็นสถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ผู้ซึ่งต่อมาตรัสรู้เป็นพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพุทธสังเวชนียสถาน 4 ตำบลเพียงแห่งเดียวที่อยู่นอกประเทศอินเดีย
หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชได้โปรดให้สร้างเสาหินขนาดใหญ่มาปักไว้ตรงบริเวณที่ประสูติ เรียกว่า เสาอโศก ที่จารึกข้อความเป็นอักษรพราหมีว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ตรงนี้
วันที่เจ็ด : ลุมพินี - สาวัตถี (ประเทศอินเดีย)
วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2567
06.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
เช้า นำทุกท่านเดินทางกลับเข้าด่านอินเดียผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองของเนปาล – อินเดีย
นำท่านรับประทานโรตีอรีดอย / เข้าห้องน้ำ ที่วัดไทยนวราชรัตนาราม 960 ชายแดนอินเดีย – เนปาล / ร่วมกันทำบุญถวายผ้าป่า
จากนั้น นำทุกท่านเดินทางสู่เมืองสาวัตถี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-8 ชั่วโมง)
11.30 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน ณ วัดไทยระหว่างทาง / ร่วมทำบุญผ้าป่า
บ่าย ถึงเมืองสาวัตถี ในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล ซึ่งในครั้งที่พระพุทธเจ้าได้เดินทางเสด็จมาประทับ จำพรรษาที่เมืองแห่งนี้รวมทั้งหมด 25 พรรษา เป็นที่ตรัสพระสูตรมากมาย ปัจจุบันยังมีซากโบราณสถานที่สำคัญปรากฏร่องรอยอยู่ คือ ที่แสดงยมกปาฏิหาริย์และเป็นเมืองที่พระพุทธศาสนามั่นคงที่สุดสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ครั้งนี้ คือที่โคนต้นมะม่วง หรือ คัณฑามพพฤกษ์ในเมืองสาวัตถี นำท่านชมคฤหาสน์ของ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี และ บ้านบิดาของท่านองคุลิมาล
นำท่านชม วัดเชตวันมหาวิหาร ซึ่งเป็นอารามที่สร้างโดยท่านอนาถบิณทิกเศรษฐี มหาเศรษฐีแห่งเมืองสาวัตถี และที่วัดแห่งนี้พระพุทธองค์ประทับจำพรรษานานถึง 19 พรรษา นมัสการพระคันธกุฎี, หมู่กุฎิของพระอรหันต์ สวดมนต์ ปฏิบัติบูชา กราบสักการะอานันทโพธิ์ เป็นต้นโพธิ์ที่ปลูกสมัยพุทธกาลโดยนำเม็ดมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่ยังไม่มีการบันทึกว่าถูกทำลายมาจนถึงปัจจุบัน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร Platinum Hotel / พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่แปด : สาวัตถี - พาราณสี
วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน 2567
05.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
เช้า ออกเดินทางสู่เมืองพาราณสี (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง)
11.30 น. รับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง / ร่วมกันทำบุญผ้าป่าตามกำลังศรัทธา
เย็น ถึงเมืองพาราณสี มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศอินเดียและยังจัดเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์โลกด้วย พาราณสียังเป็นเมืองที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาในหลายด้าน โดยมีอาณาเขตครอบคลุมถึง ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาแก่พระปัญจวัคคีย์ ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า สารนาถ. นำทุกท่านล่องเรือชมความงดงามและวิถีชีวิตของชาวพาราณสี การบูชาของคนอินเดียรอบๆแม่น้ำคงคา และ ชมพิธีคงคาอารตีบูชา หรือเรียกอีกอย่างว่า พิธีบูชาไฟ ชมพิธีการเผาศพไฟไม่เคยดับมากกว่า 4,000 ปี ลอยกระทงบูชาพระบรมสารีริกธาตุ
ค่ำ ร่วมกันรับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของ FERN HOTEL/ พักผ่อนตามอัธยาศัย
วันที่เก้า : พาราณสี - พุทธคยา
วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2567
06.00 น. ถวายภัตตาหารเช้าและรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่เข้าพัก
เช้า นำทุกท่านเข้าสักการะ ธัมเมกขสถูป สถานที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา "ธัมมจักกัปปวัตนสูตร" โปรดปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 กราบสักการะบูชาและเวียนประทักษิณ รอบองค์พระธัมเมกขสถูป สักการะ พระมูลคันธกุฏี เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับจำพรรษาแรก ใกล้กับพระมูลคันธกุฏี มี เสาอโศก หรือ เสาหินพระเจ้าอโศกมหาราชแม้จะหักออกเป็น ๕ ท่อน ก็ยังถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีถือเป็นโบราณวัตถุที่สำคัญที่สุดของอินเดีย ชม ยะสะสถูป และ ซากฐานเจดีย์ธรรมราชิกสถูป สถานที่พระพุทธองค์ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตรโปรดปัญจวัคคีย์ ทำให้ปัญจวัคคีย์บรรลุเป็นพระอรหันต์
11.00 น. ร่วมถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ และร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่วัดไทยระหว่างทาง / ร่วมกันทำบุญผ้าป่าตามกำลังศรัทธา
บ่าย เมื่อได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านออกเดินทางสู่เมืองพุทธคยา (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-8 ชั่วโมง ตามสภาพการจราจร )
18.30 น. รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของวัดที่เข้าพัก
ธัมเมกขสถูป (สถานที่แสดงธรรมครั้งแรก)
“ธัมเมกขสถูป” เป็นที่ที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา โปรดพระอัญญาโกณฑัญญะ ที่ปาอิสิปตนมฤคทายวัน ปัจจุบันเรียกว่า สารนาถ เกิดพระภิกษุรูปแรกศานาเกิดครบองค์ ๓ คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ จึงเกิดสังฆรัตนะขึ้นในโลก
สถานที่ที่ทรงแสดงธรรมเพื่อประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรกในโลกนั้น เกิดเป็นพุทธานุสรณ์สถานระลึกถึง คือ ‘ธัมเมกขสถูป’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสังเวชนียสถาน 4 แห่งที่สำคัญของพุทธศาสนิกชน
วันที่สิบ : พุทธคยา
วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน 2567
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของวัดที่เข้าพัก
07.00 น. นำทุกท่านเข้าสักการะ เจดีย์มหาโพธิ์ ร่วมสวดมนต์บูชา ถวายผ้าห่มองค์พระพุทธเมตตา ชม สัตตมหาสถานจำลอง ที่พระองค์ทรงเสวยวิมุตติสุขอยู่ 7 สัปดาห์ คือ อนิมิสสเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ รัตนฆรเจดีย์ และสระมุจลินทร์
11.30 น. ถวายภัตตาหารเพลและรับประทานอาหารกลางวัน ณ วัดไทย
บ่าย นำทุกท่านเดินทางสู่ เขาดงคะสิริ ขึ้นกราบสักการะสถานที่บำเพ็ญทุกกรกิริยาของเจ้าชายสิทธัตถ ก่อนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
จากนั้น นำทุกท่านเดินทางไปที่ สถูปเนินดินบริเวณที่เคยเป็น บ้านนางสุชาดา ผู้ถวายข้าวมธุปายาสก่อนวันตรัสรู้ หลังจากนั้นนำท่านเยี่ยมชม ต้นอชปาลนิโครธ สถานที่ทรงรับข้าวมธุปายาสก่อนตรัสรู้ และเป็นสถานที่ทรงเสวยวิมุตติสุขสัปดาห์ที่5 และชม แม่น้ำเนรัญชราสถานที่ที่พระพุทธเจ้าอธิษฐานจิตลอยถาดทองคำที่นางสุชาดาถวายพร้อม”ข้าวมธุปายาส”
18.30 น. รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารของวัดที่เข้าพัก / ร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าตามกำลังศรัทธา / พักผ่อนตามอัธยาศัย
พระมหาเจดีย์พุทธคยา (สถานที่ตรัสรู้)
พระมหาเจดีย์พุทธคยา (Mahabodhi Temple) เป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ซึ่งเป็นพุทธศาสนสถานเก่าแก่แต่ได้ถูกสร้างใหม่และบูรณะอยู่หลายครั้ง ตั้งอยู่ในเมืองพุทธคยา